ข่าวประชาสัมพันธ์
กดดู งานปฏิบัติธรรมอาจาริยบูชา หลวงปู่ชา สุภัทโท ณ วัดหนองป่าพง จ. อุบล ฯ ประจำปี ๒๕๖๖ .. ๑๒ - ๑๗ ม
                    งานปฏิบัติธรรมอาจาริยบูชา หลวงปู่ชา สุภัทโท 
         ณ วัดหนองป่าพง จ. อุบล ฯ ประจำปี ๒๕๖๖ .. ๑๒ - ๑๗  มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๖


                      ------------------------------------------------------------------------------


       " ผล " จากการ ภาวนา ปฏิบัติธรรม ใน ทุก ๆ สถานที่ ฯลฯ ... 

                         ที่ เป็น เต็ม ที่  ..  เมื่อ ๑๕ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ฯ ....


                             ภาวนา ทำได้ ทุกๆ สถานที่ ...
...
ภาวนา ... ทำได้ ทุกๆ ท่า ขณะที่อวัยวะ ในร่างกาย กำลัง เดิน ( จงกรม)  ยืน เดิน  นั่ง นอน  งอ ขยับ ก้ม เงย แหงน คู้ กระตุก สั่น ชา มึน เย็น สาก ร้อน นิ่ม ละเอียด เหยียด หดเข้า คลายออก หายใจเข้า หายใจออก ยุบ พอง ฯลฯ ) กิน ดื่ม พูด นิ่ง ปัสสาวะ  อุจจาระ ๆ ฯลฯ ....


ภาวนา ... ทำได้ ทุก ๆ คน ทุก ๆ เพศ ทุก ๆ วัย ทุกอาชีพ ...
เช่น มี คน อายุ ๗ ขวบ ก็ ทำได้ ถึง ขั้นโสดาบัน สกิทาคามี  อนาคามี อรหันต์ ...
..............


ภาวนา ... เคย ทำได้ผล ใน การ ภาวนา การฝึก จนได้ ธุดงค์ ศีล { สมาธิ } ปัญญา ฯลฯ มาแล้ว ในงาน ปฏิบัติธรรม เป็น เมื่อ วันที่ ๑๕ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ที่ ศาลา วัดหนองป่าพง ...


โดย เริ่มฝึก ภาวนา จาก วันที่ ๑๐ ม.ค. พ.ศ. ๓๗ ( ๑๒ ถึง ๑๗ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ 

                     งานบรรจุอัฐฐิ หลวงปู่ชา  สุภัทโท เข้าเจดีย์ )


วิธีการ ฝึก สมาธิ ภาวนา ...
ควรจะอยู่ ในที่สงบ ไม่มีบาป ไร้อกุศล ไม่มีคน แมลง สัตว์ รบกวน
ไม่มีเสียง ไม่มีสิ่งรบกวน ไม่มีทั้งเสียง แสง กลิ่น ฝุ่น ไอพิษ สารพิษ  เชื้อโรค รบกวน ไม่ร้อนเกิน ไม่เย็นเกิน ฯลฯ ...


ควร อยู่ในที่ส่วนตัว ในป่า หรือ ที่ที่ไม่วุ่นวาย แม้คนมาก ก็ ไม่รบกวนกัน ฯลฯ ...


อาจจะ นั่ง ตัวตรง มีสติ ...
เฝ้าดูลมหายใจเข้า เฝ้าดูลมหายใจออก อย่างมีสติ ...


ไม่กด ไม่เกร็ง ที่ทุก ๆ อวัยวะ ของร่างกาย เช่น ไม่เกร็ง ที่คอ ท้อง หลัง มือ คิ้ว ริมฝีปาก คาง ลมหายใจ มือ เท้า เข่า แก้ม ปาก  ..  ฟันอย่ากัดฟันแรงจนปวด จนกรามนูน  ...

 

เอาฟันบนแตะเบา ๆ กับฟันล่าง เอาลิ้นแตะเบา ๆ ที่่ เหนือเพดานปาก เหนือ ลิ้น ...ฯลฯ  ถ้า นํ้าลานไหล ก็ ค่อย ๆ กลืนนํ้าลาย  ...  ฯลฯ .. 

อย่าเกร็ง อย่าหลับ แบบขาดสติ ...


ไม่ต้องกลัว ไม่ต้องสงสัย ไม่เต้นเต้น ไม่หวาดเสียว ไม่หลับใหล มีความรู้ตัว ทั้งรู้ทางร่างกาย และ รู้ทางใจ  ไม่ย่อหย่อน ไม่เกร็งเกินไป   ไม่อยาก  แต่ไม่ย่อหย่อน ...

หายใจเข้า หายใจออก ตามปกติ ไม่สั้น ไม่ยาว ...


อาจจะ ท่อง บริกรรม คิด ในใจ ว่า " พุธ " " โธ " หรือ พุทธะ พร้อม สติ ...


เช่น กล่าว ท่อง คิด บริกรรม ในใจ ว่า " พุธ " ในขณะ ตอนที่กำลัง หายใจเข้า ... 

มีสติ รู้ตัวอยู่ ... 


และ ท่อง คิด บริกรรม ในใจ ว่า " โธ " ในขณะ ตอนที่ กำลังหายใจออก ... 

มีสติ รู้ตัวอยู่ ...


* ฝึกนาน ประมาณ ยี่สิบกว่านามที ก็ เริ่ม ๆ เป็น มี อาการ ตื่น ไม่หลับ มีสติ รู้ตัว  คำว่า  พุท โธ ที่เคย ท่องในใจ เริ่ม จะ เบา ๆ   ... ไม่ ต้อง ท่อง ว่า พุท ไม่ท่องว่า โธ   

แต่ คำว่า พุท โธ ยังไม่หยุดสนิท .. ลมหายใจ เริ่ม เบา มีความเย็น สุข  สบาย  ในบ่าย วันที่ ๑๑ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ที่ศาลา วัดหนองป่าพง ...


** เป็นอีก เวลาเดิม สถานที่เดิม มี อาการ พุทโธ เริ่ม จะ สะดุด ๆ แต่ พุท โธ ยังไม่หยุด .... ลมหายใจเริ่ม เบา ๆ มีความเย็น สุขใน วันบ่าย ที่ ๑๒ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ที่ศาลา วัดหนองป่าพง 


** เป็นอีก เวลาเวลา เวลา เวลาเดิม แต่ลึก เข้าไป  สถานที่เดิม
มี อาการ พุทโธ เริ่ม จะหาย ไป พุทโธ มาบ้าง แต่เบา ๆ  ...  แต่ คำที่ท่องว่า พุท ท่องว่า โธ ยังไม่หยุด สนิท ... 

ลมหายใจ เริ่ม เบา แผ่ว ตัวเบา  บางทีลมหายใจ ที่ เข้า ออก ก็ สะดุด นิด ๆ  จนรู้สึกว่า ร่างกาย ตัวตน เกือบ จะหายไป จากความรู้สึก   แต่ไม่หลับ มีความเย็น ๆ สุข ๆ มีสติรู้อยู่ ... 

แต่ ก็ ต้อง หยุด ภาวนา เพราะ ต้อง ถอยจิต ออกมาฟังเทศน์ ตอน บ่ายสองโมง ในบ่ายวันที่ ๑๓ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ที่ศาลา วัดหนองป่าพง ...


**** เป็น อีก และ เป็น ลึกเข้าไป กว่า วันก่อน มี อาการ คำที่ ท่อง พุท โธ จะหาย ไป  .. และ คำที่ ท่องว่า พุท โธ จะหยุดสนิท ไม่ต้องกล่าว คำว่า  พุท   โธ... 

ลมหายใจ เริ่ม เบา แผ่ว น้อย มาก ๆ 

ลำตัว  ร่างกายเบา จนรู้สึกว่า ร่างกาย ตัวตน เกือบ จะหายไป จากความรู้สึกที่บริเวณหัว ที่บริเวณหน้าอกเกือบจะหายใปจากความรู้สึก เบาสมองมาก แต่ไม่หลับ มีความเย็น ๆ สุข ๆ ยิ่งกว่าวันก่อน ๆ ... 


แต่ ก็ ต้อง หยุด ภาวนา เพราะ ต้อง ถอยจิต ออกมาฟังเทศน์ในบ่าย วันที่ ๑๔ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ที่ศาลา วัดหนองป่าพง ....


***** บ่าย วันที่ ๑๕ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ และ เห็นผล เต็ม ๆ ในช่วงเวลาเดิม ณ สถานที่เดิม เป็นอีก และ เป็นแบบลึกเข้าไป มี อาการ พุทโธ หายไป จนรู้สึก ว่าคำ ว่า พุธ ที่กล่าว ที่ท่องในใจ ว่า พุธ ตอน หายใจเข้า หายใป หมด หายสนิท 


และ คำกล่าว คำท่องในใจ ที่ว่า โธ ที่กล่าว พร้อมกับ หายใจ ออก จะหายใป หมด หายสนิท 
 ...


มีอาการ มีความรู้สึก ว่า ลมหายใจ หยุดหายใจ ทั้งหายใจเข้า หายใจออก ไม่หายใจ  

ไม่ตาย แต่มี ความสุขที่่สุดในชีวิตช่วงประมาณ ๒๕ ปี ( เท่าที่ จำความได้ ) ที่ผ่านมา มีปีติ  มีความรู้ตัวเกือบทั่วตัว  ไม่ตกใจ


ก่อน ลมหายใจ จะหยุด  ลมหายใจเข้า ลมหายใจออก ก็อาจจะสั่นบ้าง แล้ว ลมหายใจ ทั้ง เข้า และออก ก็ ค่อย ๆ หยุด 

ขณะ นั่ง ฝึกสมาธิ ที่อาสนะสงฆ์มุมซ้ายสุด ( หันหน้าเข้าหาพระพุทธรูป ) ในศาลา วัดหนองป่าพง ...


ในวันก่อน ๆ  ( วันที่ ๑๐ - ๑๔ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ) อาการ ที่ ลมหายใจ เริ่ม เบา  บางที ลมหายใจ เข้า ออก ก็ สะดุดบ้าง  มีความสุข ก็จะเป็น จะเกิด ในช่วงเวลา ประมาณ ๑๓.๔๕ น. ถึง ๑๔ .๐๐ น. เกือบ ทุกวัน 


เพราะ ว่า เมื่อ ถึงเวลาสัญญาณ ระฆังบอก ก็ จะ รีบ เข้าไป นั่ง ฝึกสมาธิภาวนา ที่ ศาลา วัดหนองป่าพง บริเวณ ใกล้ ๆ กับ ที่ วาง อัฏฐิ หลวงปู่ชา ที่มุมซ้ายมือ ใน ปี พ.ศ. ๒๕๓๗ ก่อน จะ อัญเชิญ อัฏฐิ หลวงปู่ชา ไป บรรจุเข้าเจดีย์ ที่ ทางทิศเหนือ ของศาลา  ....


จุดที่นั่งฝึก เมื่อ หันหน้าเข้าหาพระประธาน ในศาลา จะ เป็น อาสนะที่นั่งของพระ บริเวณ มุม ซ้ายมือ ใกล้ ๆ กับ ที่วาง พระพุทธรูป พร้อมโต๊ะหมู่บูชา ในปัจจุบัน ...

และ หลังจาก ๑๕ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ก็ จะ เป็น มีอาการ  พุท โธ หมด ลมหายใจ หมด แต่ มีสติ  มีความรู้ตัว ทั่วพร้อม ใน ทุก ๆ ท่าทาง ทุกอิริยาบท  ทั้ง ยืน เดิน นั่ง ไป มา จะ มีความรู้ตัว ใน ทุก ๆ วินาที เว้น หลับ  มีความสุข ร่างกายเบา เกือบ จะไม่มี ร่างกาย ตัวตน หัว จรด เท้า จะหายไป จากความรู้สึก  เวลาเดิน ก็ เหมือน ๆ เบา ๆ


จากความรู้สึก เบาสมอง มีศรัทธา ในพุทธศาสนา มาก ๆ สามารถ สละแขน ตัดให้ คนอื่นได้ มีสติ รักศีลมาก รักสมาธิ ชอบถือธุดงค์ มีความปรารถนาที่จะ เป็นผู้ ที่ ปฏิบัติ ที่ ดี ๆ ฯลฯ ใน มรรค ผล นิพพาน ... 


                                 ----------------------------------------


{ เดิม ๆ อายุ ๒๕ ปี 

                                เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่ดูด การพนันไม่ยุ่ง ไม่เที่ยว  

                                                       อยากเป็นคนดี  รักยุติธรรม ฯลฯ  


                         ตั้งใจ จะลาบวช ๔ เดือน เต็มที่ ที่ลาราชการมาบวช ได้ 

หลังเรียน ในรอบคํ่า ด้วย ทำงานราชการ ด้วย จนจบ สาขา วิศวกรรมเครื่องกล 

จาก คณะครุศาสตร์อุตสาหกรรมและวิทยาศาสตร์ 

จาก สถาบันเทคโนโลยี พระจอมเกล้า พระนครเหนือ กทม. 


แล้ว ขอ ลาราชการ ลาผู้บังคับบัญชา ผู้ร่วมงาน ใน กรมโยธาธิการ 


( ก่อนนั้น เคยทำงาน อยู่ กรมที่ดิน กทม. ๔ ปี ก็ ขอ ลา ผู้ร่วมงาน ด้วย ) ... 

บวช ที่ วัดบ้านแดงหม้อ ที่บ้านเกิด  ต. แดงหม้อ  อ. เขื่องใน ที่ จ. อุบล ฯ 

บวช เมื่อ วันที่  ๒ ส.ค. พ.ศ. ๒๕๓๖ 


วางแผน ไว้ คร่าว ๆ ว่า หลังจากนั้น จะไป เรียนต่อ ปริญญาโท วิศวกรรมเครื่องกล 

ที่ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า ลาดกระบัง  กทม. ... ?? ...


แต่ อยู่ ต่อมา .. ??? .. 

เพราะ จะ เปลี่ยน จาก วิศวกรรมเครื่องกล
เปลี่ยน มา วิจัย เรื่อง ธุดงค์  ปิฎก ศีล  ธุดงค์ ๑๓ วัตร ๑๔  สมาธิ ฌาณ  โพธิปักขิยธรรม ๓๗  

มรรค ๘  นิพพาน บรมมสุข ที่เที่ยง สุข


เพื่อ พ้นทุกข์ เพื่อนิพพาน ใน พุทธศาสนา บริษัท ต่อไป }


มีอาการ ตัวเบา จับลมหายใจไม่ได้ แต่มีความสุข รู้ตัวทั่วพร้อม ชอบสงบ 

ใจตั้งมั่น รักศีล รักสมาธิ ฝึกปัญา ฝึกธุดงค์ วัตร ๑๔ ฯลฯ 

ถวายชีวิต แต่ พุทธะ  เป็นมา ตั้ง แต่ ๑๕ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗  

และ เป็นตลอดมา เว้นหลับ .......

......

.......


เป็นมาจน ถึง บัดนี้ ๑๗ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๖๖ รวม ๒๙ ปี โดยประมาณ  .. 

มาจาก  ๒๕๖๖ - ๒๕๓๗ =  ๒๙ ...



                               ----------------------------------


นอก จาก นี้ ก็ได้ ภาวนา ด้าน ปัญญาในขันธ์ ๕   ความเพียร สติ ขันติ  ฯลฯ นิพพาน  ต่อ ใน หลาย ๆ ด้าน 

จน ไป ถึง  อาการ ที่ 



           ..................  สบาย ..........................



    ณ กึ่งกลางทางจงกรม หน้า ศาลาบน   เวลาประมาณ คํ่า ๆ   

      ที่ สำนักสงฆ์เต่าดำ  อ. ไทรโยค จ. กาญจนบุรี

        ในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๙


         ................................................................................


.... แต่ก่อน ที่ วัดหนองป่าพง จะ เริ่มฝึก งานปฏิบัติธรรม ตั้งแต่ ๑๐ ถึง ๑๗ ม.ค. พ.ศ. ๒๕๓๗ ....


                                               .... .... ....


งานปฏิบัติธรรม เพื่อ ภาวนา เพื่อพ้นทุกข์  ที่ วัดหนองป่าพง อ. วารินชำราบ จ. อุบลราชธานี ประเทศไทย โลก

 

    ระหว่าง วันที่ ๑๒ ถึง ๑๗ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๖๖  มี ทุกปี

Word Document ดาวน์โหลดไฟล์   ขนาดไฟล์ 73.5 KB
โพสเมื่อ : 15 ม.ค. 2563,11:10   อ่าน 727 ครั้ง